วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2556

ไปราชอาณาจักรกัมพูชาครั้งแรก

โลกปัจจุบันนี้ หันไปทางไหนก็มีแต่คนพูดถึงประชาคมอาเซียน  นับวันไทยเราจะมีเพื่อนต่างชาติเข้ามาเป็นแรงงานกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเขมร ลาว พม่า เวียดนาม  ซึ่งไม่เพียงแต่จะมีบทบาทในการทำงานที่ขยันขันแข็ง อดทน สู้งานเท่านั้น  เพื่อนบ้านเหล่านี้ส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้เก่งกว่าคนไทยหลายเท่านัก  พวกเขาพร้อมแล้วสำหรับการก้าวเข้าสู่สภาพประชาคมอาเซียนอย่างแท้จริง 

เมื่อหลายวันก่อนได้มีโอกาสไปร่วมโครงการพระราชทานความช่วยเหลือด้านทุนการศึกษาของสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี   แก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ประจำปี ๒๕๕๖

วันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ เริ่มงาน ๗.๐๐ น. ที่หอประชุมขนาดใหญ่ใน Institut Technologie de Cambodia   มีพิธีปฐมนิเทศคณาจารย์ที่มาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ   มีการแนะนำคณะทำงานโครงการพระราชทานความช่วยเหลือด้านการศึกษา แก่ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยมีพลเอกวาภิรมย์ มนัสรังสี รองสมุหราชองครักษ์ เป็นประธานจัดงาน  ในส่วนของการสอบ ที่ประชุมได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยบูรพาและมหาวิทยาลัยมหาสารคามร่วมกันเป็นแกนนำในการดำเนินการสอบคัดเลือกนักเรียนทุนพระราชทานฯ

                        ต่อจากนั้น ได้เชิญให้นักศึกษากัมพูชาผู้สมัครเข้าสอบชิงทุนจำนวนประมาณ ๑๕๐๐ คนเข้าหอประชุมเพื่อฟังการปฐมนิเทศ และอธิบายขั้นตอนการสอบในวันพรุ่งนี้ 

                        จากนั้นแต่ละมหาวิทยาลัยจะไปเตรียมการจัดบูธใต้หอประชุมเพื่อประชาสัมพันธ์ ให้รายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตร  และเปิดโอกาสให้ผู้สมัครซักถามถึงเนื้อหาวิชา ตลอดจนข้อสงสัยต่างๆ   โดยภาพรวมแล้วมีผู้สนใจหลักสูตรต่างๆ ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มากพอสมควร   เมื่อถึงเวลาพักเที่ยง คณาจารย์จะกลับขึ้นไปรับประทานอาหารกล่องที่ทางกรมราชองครักษ์ได้จัดเตรียมไว้ให้ 

                        ในช่วงบ่าย คณาจารย์ช่วยกันตรวจสอบหมายเลขผู้สมัคร  เอกสารการสมัคร และติดแถบข้อมือที่มีหมายเลขประจำตัวของผู้สมัครที่จะเข้าสอบในวันรุ่งขึ้น  เสร็จแล้วจึงแยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย

๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๕  เริ่มงานเวลา ๗.๐๐ น. ผู้สมัครเข้าประจำที่นั่งสอบตามที่ได้ติดหมายเลขไว้แล้ว  ทั้งนี้ ได้แยกสอบออกเป็นห้องสอบปริญญาตรี  และปริญญาโท จากนั้นคณาจารย์ได้แยกย้ายกันไปคุมสอบ  ในช่วงของการสอบจะมีนักศึกษากัมพูชาที่ได้รับทุนเมื่อปีก่อนๆ มาช่วยแปลคำถามให้ระหว่างผู้คุมสอบและผู้สมัครสอบ

             จากนั้นคณะผู้จัดได้พาไปยังสถานทูตไทยในกัมพูชา ได้พบกับเอกอัครราชทูต นายธัชชยุติ ภักดี ได้เลี้ยงต้อนรับคณาจารย์และคณะทำงานทั้งหมด  หลังจากได้รับประทานอาหารค่ำร่วมกันแล้ว ได้เวลาอันสมควรจึงแยกย้ายกันกลับไปโรงแรมเพื่อพักผ่อน

 

วันรุ่งขึ้น มีเวลาไปเที่ยวรอบๆ เมืองพนมเปญ  ใจกลางเมืองรถติดมาก   เรามีโอกาสเดินทางไปกับคณาจารย์มหิดล  ท่านทั้งหลายใจดีให้เราไปเที่ยวด้วย  อากาศรอบตัวร้อนมาก ถึงมากที่สุด ไปไหว้วัดพนม จากนั้น ไปแวะตลาดกลาง เรารีบเดินเลยไปถึงห้างสุริยา ค่อนได้รับแอร์เย็นฉ่ำหน่อย  พอถึงเวลานัด เรามาเจอกันที่จอดรถ แล้วไปทานบุฟเฟ่ต์กัมพูชา  หัวละ 7 ดอลล่าร์  พอทานได้บ้าง  จากนั้นเราไปเดินคุกตุลซะเลง  เป็นโรงเรียนเก่าที่มาดัดแปลง ที่คุกแห่งนี้มีคนตายจากการถูกขังลืม และการทรมานหลายรูปแบบ  ดูในรูปแล้ว ชาวกัมพูชาช่างโหดร้ายทารุณเหลือเกิน  หากจะยิงเป้าหรือไฟช็อต หรือรมแก๊สพิษก็ยังจะดีเสียกว่าให้อดตายไปอย่างช้าๆ   คนไทยช่างโชคดีนัก

 

สิ้นสุดภารกิจด้วยการเดินทางไปสนามบินพนมเปญ  ผู้คนพากันไปไหนไม่รู้  แถวยาวเหยียด สนามบินเล็กไปถนัดใจ  เมื่อเช็คอินเข้าใน boarding place นั่งรอเครื่องอีกแป๊บนึง แต่ใจเราถึงเมืองไทยแล้ว  ลาก่อนทริปกัมพูชา  อยากจะสัญญาว่าจะไปอีกในปีถัดไป ...สัญญา

1 ความคิดเห็น:

  1. อาจจะเล่าขาดๆ หายๆ ไปบ้าง ก็เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับการสอบ ที่แต่ละมหาวิทยาลัยจะกำหนดกฏเกณฑ์ในการรับนักศึกษากัมพูชาไปเรียนในสาขาต่างๆ เมื่อได้มาสังเกตการณ์ในปีที่สองนี้ ก็คาดเดาได้ว่า ปีหน้าน่าจะมีนักศึกษากัมพูชามาสมัครเข้ารับการคัดเลือกมากกว่าอีกเท่าตัว จากปีก่อน ประมาณ 500 คน ปีนี้เพิ่มเป็น 1500 คนแล้ว ปีหน้าต้องมีการเตรียมการให้ดีกว่านี้ เราจะเห็นการตืนตัวทางการศึกษาของประเทศเพื่อนบ้านที่มีการแข่งขันสูงมาก

    ตอบลบ